อาจารย์อัจฉราวดี วงศ์สกล

ไม่มีใครหนีกรรมได้พ้น อันนี้จริงที่สุด ทำบาปอะไรไว้ก็ต้องได้รับกรรมนั้น แต่หากรู้วิธีการแก้กรรม ก็จะทำให้กรรมจบลงหรือวิบากบรรเทาลงได้มาก การแก้กรรมประการแรกที่สำคัญที่สุด คือการขอขมากรรม
.
การขอขมาไม่ใช่ขออโหสิ การขออโหสิ คือขอให้ยกโทษให้ แต่การขอขมา คือการกล่าวยอมรับผิดต่อการกระทำของตน ด้วยความสำนึกเสียใจอย่างยิ่ง จากนั้นจึงค่อยขออโหสิกรรม
.
หากกระทำสองขั้นตอนนี้ได้ กรรมที่พึงเกิด จะบรรเทาลงมาก และที่น่าอัศจรรย์กว่านั้นคือ กรรมที่ทำต่อพระรัตนตรัย ต่อพ่อแม่ครูอาจารย์ ก็จะสลายไปแทบหมด หรือหากจะมีวิบากเหลืออยู่ ก็จะเบาบางมาก แต่ที่กรรมไม่หายและเวลาส่งผลหนักอยู่ เวลาขอขมาจิตไม่น้อม หรือขอขมาเพราะกลัวบาป แต่ไม่เห็นความผิดของตนเอง
.
อีกประการคือ ในการขอขมากรรมให้ได้ผล ชนิดบาปและอกุศลหายไปมากมาย คือกระทำบาปที่ไหน ต้องไปขอขมาที่จุดเกิดเหตุ ที่ ๆ ตนกระทำลงไป หรือหากบุคคลนั้นยังมีชีวิตก็ต้องไปขอขมากับตัว ไม่ใช่ขอขมาอยู่ในจิต การทำเช่นนั้นพลังกรรมจะบรรเทาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น หาก
บุคคลน้ันตายไปแล้ว ก็ไปขอขมาที่สถานที่เขาเคยอยู่หรือผูกพันมากที่สุด นั่นจะทำให้การขอขมาได้ผล
.
เหตุผลก็เพราะ เมื่อไปทำใครให้เขาทุกข์ เสียใจ เจ็บใจ จุดเกิดเหตุ คือ จุดก่อกำเนิดกระแสอกุศล เวลาบุคคลผู้ถูกทำร้ายนั้นเข้าไปอยู่ที่ตรงนั้น เขาก็จะถูกกระตุ้นสัญญาหรือความทรงจำขึ้นมา การไปขอขมาที่จุดเกิดเหตุ จะเป็นการช่วยถอดถอนสิ่งที่ติดค้างใจของทั้งสองฝั่งได้อย่างมีพลัง การขอขมา ณ จุดเกิดเหตุจึงช่วยแก้เงื่อนกรรมและลดทอนพลังกรรมได้มากมาย
.
เหตุเกิดที่ไหน ไปดับที่นั้น
ติดตามอ่าน บทธรรมคำสอนของอาจารย์อัจฉราวดี วงศ์สกล
ได้ที่ https://www.techovipassana.org/teachings
รายละเอียดคอร์สปฏิบัติธรรม www.techovipassana.org/course
หรือ โทร 02-117-4063 ถึง 64
คำโควต เรื่องการแก้เงื่อนกรรม
การแก้กรรมที่สำคัญที่สุด คือการขอขมากรรม
การขอขมากรรมให้ได้ผล ชนิดบาปและอกุศลหายไปมากมาย
คือกระทำบาปที่ไหน ต้องไปขอขมาที่จุดเกิดเหตุ
หากบุคคลนั้นยังมีชีวิตก็ต้องไปขอขมากับตัว ไม่ใช่ขอขมาอยู่ในจิต
เหตุเกินที่ไหน ต้องไปดับที่นั่น