ประสบการณ์ทางธรรม ของนายแพทย์อุทิตย์
ผมชื่อนายแพทย์อุทิตย์ อายุ 65 ปี ทำงานเป็นรังสีแพทย์ (หมอเอ็กซเรย์) ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งย่านภาษีเจริญ หลังจากอ่านฆราวาสบรรลุธรรมเล่ม 1 เมื่อปลายเมษายน 2559 ก็ได้เข้ามาเป็นศิษย์เตโชวิปัสสนาเมื่อพฤษภาคม 2559 กุมภาพันธ์ และ พฤศจิกายน 2560 ตามลำดับ
ผมมีประสบการณ์เฉียดตาย ซึ่งมีสภาวธรรมที่เกิดระหว่างภาวนาเป็นลางบอกเหตุล่วงหน้าเพียง 3 สัปดาห์ เสมือนหนึ่งเป็นนิมิตเตือนก่อนตาย เห็นว่าจะเป็นประโยชน์แก่ทุกคน จึงขอเล่าดังต่อไปนี้
ค่ำวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2561 ระหว่างภาวนาตามปกติที่บ้าน เกิดมีสภาวธรรมมากมาย (ซึ่งปกติไม่ค่อยจะมี) เป็นลำดับไล่เรียงกันไปดังนี้คือ เห็นกลุ่มพระห่มจีวรสีกรัก (แบบพระสายวัดป่า) หลายรูปมายืนชุมนุมกันที่ตรงหน้า สักครู่เป็นภาพพระสงฆ์ยืนพนมมือ แต่ไม่มีศีรษะ และชั่วอึดใจหนึ่งภาพพระพนมมือภาพเดิมมาปรากฏอีกแต่มีศีรษะ เป็นตัวผมเอง หลายวันต่อมา เห็นภาพตนเองมีใบหน้าชัดเจน แต่ร่างกายเหลือเพียงโครงกระดูกที่เคลื่อนไหวไปมาได้ ต่อมาเห็นภาพปฏิทินรายเดือน ปรากฏเลข 14 เพียงวันเดียวในเดือนนั้น ผมไม่ได้ใส่ใจเพราะคิดว่าคงเป็นเพียงสภาวธรรมในระหว่างภาวนา ให้รับรู้แล้ววางลงตามที่ท่านอาจารย์ย้ำเตือนเสมอ
วันที่ 6 มีนาคม มีโพสเรื่อง “นิมิตเตือนก่อนตาย” โดยศิษย์อาวุโสท่านหนึ่ง ปรากฏรายละเอียดแทบจะตรงกันทุกเรื่องกับที่เกิดกับผม แต่เห็นเป็นนาฬิกาเข็มบอกเวลานาฬิกา ท่านอาจารย์ได้เตือนว่านี่เป็นนิมิตเตือนว่าสิ้นอายุขัย มีเวลาอีก 7 เดือน ได้แนะนำให้ไปทำกิจต่าง ๆ เพื่อต่ออายุขัย เวลาผ่านไป 7 เดือน ผู้เล่าก็เกิดภาวะเจ็บหน้าอกแบบโรคหัวใจระหว่างอยู่ในช่วงกลางของการเข้าปฏิบัติธรรม จึงได้ไปทำการต่าง ๆ ตามที่ท่านอาจารย์แนะนำ ผมได้ปรึกษาเรื่องของผมว่ามีนิมิตตรงกันแทบทุกประการ ได้รับคำแนะนำให้กราบเรียนถามท่านอาจารย์
ผมเขียนอีเมลกราบเรียนถามท่านอาจารย์ในวันที่ 8 มีนาคม ท่านอาจารย์ตอบกลับผมมาโดยทันทีภายในวันรุ่งขึ้นบอกว่าจะเจ็บป่วยหนัก แต่ยังพอมีเวลา ได้แนะนำให้ผมไปไถ่ชีวิตโค 1 ตัว และอื่น ๆ อีกหลายประการ ผมได้ไถ่ชีวิตโคที่เพิ่งตกลูกได้ 1 วัน และกำลังเข้าคิวรอเชือดพร้อมกันกับลูกโค ไถ่มาทั้งแม่โคและลูกโค 2 ชีวิตในตอนสายราว 10.00 น. วันที่ 13 มีนาคม เมื่อได้เห็นภาพโคทั้งสองและอธิษฐานให้โคแล้ว พลันก็เกิดอาการหัวใจเต้นรัวระริกทันที ชีพจรวัดได้ ราว 110 ครั้งต่อนาที ซึ่งเร็วเกือบเป็นสองเท่าของชีพจรปกติของผมที่ราว 62-65 ครั้งต่อนาที ผมไปพบแพทย์ ตรวจคลื่นหัวใจ แพทย์บอกให้รอดูอาการ 1 วัน แต่ชีพจรก็ไม่ลดเลยจนค่ำราว 19.00 น. ก็เกิดอาการเจ็บแน่นหน้าอกแบบหัวใจขาดเลือด (ผมเคยเป็นเมื่อ 9 ปีก่อน สวนหัวใจมาแล้ว พบมีตีบอยู่ 2 เส้น) โทรหาเพื่อนแพทย์ถึง 4 คน คนหนึ่งเป็นหมอหัวใจ แต่ไม่มีใครรับสายเลย และไม่มีใครโทรกลับด้วยเช่นกันตลอดคืนนั้นจนถึงเช้า
วันรุ่งขึ้น (ซึ่งคือวันที่ 14 มีนาคม ตรงกับเลขบนปฏิทินรายเดือนที่ปรากฏในนิมิต) ผมเจ็บแน่นหน้าอกอีกเมื่อเวลาราว 7.00 น. คราวนี้วัดความดันโลหิต พบว่าตกไปเหลือเพียง 96/61 มม.ปรอท (ปกติควรเป็น 120/80 มม.ปรอท) แต่ก็ฝืนไปทำงานที่โรงพยาบาล เริ่มงานไปได้ราว 1 ชั่วโมง ก็หน้ามืด วิงเวียนหายใจหอบจะเป็นลม ไปตรวจอีก คราวนี้หมอวินิจฉัยว่าเป็นอาการของโรคหัวใจกำเริบ และแอดมิทเข้าห้องไอซียูทันที รักษาแบบภาวะหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน สองวันต่อมา ไปตรวจโดยการสวนหัวใจ พบว่าหลอดเลือดหัวใจตีบ 1 ที่ ใน 1 เส้น และ 2 ที่ในอีก 1 เส้น รวม 3 ที่ คงเหลือเป็นปกติเพียงอีกเส้นเดียว พักฟื้นที่บ้านได้อีก 5 วัน ก็กลับมาทำงานตามปกติ แม้จะยังอ่อนเพลียมากก็ตาม เพราะผมเป็นรังสีแพทย์เพียงคนเดียวของโรงพยาบาล ขาดงานไปนานไม่ได้
ทั้งหมดที่เล่ามานี้ ก็เพื่อเป็นอุทาหรณ์ให้เห็นความสำคัญของนิมิตในลักษณะที่เห็นเป็นคนศีรษะขาดหายไป ว่าเป็นลางบอกเหตุร้ายแรงอาจถึงชีวิต สมควรได้สอบถามและขอคำแนะนำจากผู้ทรงภูมิธรรมสูงเช่นท่านอาจารย์อัจฉราวดี วงศ์สกล ท่านอาจารย์อันเป็นที่เคารพยิ่งเพื่อให้ได้ปฏิบัติตนได้ถูกต้อง ผ่อนหนักให้เป็นเบา มิฉะนั้น กรรมหนักที่มาถึง อาจเป็นกรรมตัดรอนจนถึงแก่เสียชีวิตได้ นอกจากนี้ ก็เพื่อให้พิจารณาเป็นมรณานุสติว่า ความตาย ย่อมมาเยือนเราได้ทุกเมื่อทุกที่ ดังนั้น การเตรียมตัวตายอย่างมีสติล่วงหน้า จึงเป็นสิ่งที่ทุกคนควรกระทำ
#รชด #ภาวนา #สตปฏฐานส #พระอาจารยสมเดจพฒาจารยโต #รใหชด #เรองเลา #พระอาจารยสมเดจโต #ฆราวาส #ธรรมะ #ฝกสต #เพงดกาย #สมปชญญะ #สมาธ #ชำระจต #สต #นมตเตอน #ฝกสมปชญญะ #เตโชธาต #รตวทวพรอม #อาจารยอจฉราวดวงศสกล #ดจต #นอกวด #เพยรเผากเลส #ปฏบตธรรม #เผากเลส #วางเฉย #ฆราวาสบรรลธรรม #สมเดจโต #อเบกขา #วปสสนา #เพง #ขณะจต #นพพาน #เพยร #ธรรมแท #เพงดจต #กรรมฐาน #หลดพน #สมเดจพฒาจารยโต #เตโช #สตสมปชญญะ #จตบรสทธ #เตโชวปสสนา #ประสบการณ #เพยรภาวนา