ประสบการณ์ธรรม คุณชินโชติ

เคยบ้างไหมที่รู้สึกว่าโดนคนอื่นกระทำ ทำให้รู้สึกผิดหวังและเจ็บช้ำใจโดยไม่รู้สาเหตุ ข้าพเจ้าเป็นคนหนึ่งในนั้น ที่เกิดเหตุการณ์เปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชีวิต คือการต้องออกจากงานอันเป็นที่รัก
.
ข้าพเจ้าชื่อชินโชติ อดีตเคยเป็นนักบินในบริษัทการบินขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง ที่บินไปเกือบทุกทวีปทั่วโลก ข้าพเจ้าเริ่มเป็นนักบินฝึกหัดตั้งแต่อายุ 23 ปี ทำงานเรื่อยมาจนได้รับการเลื่อนตำแหน่งขึ้นเป็นกัปตันในที่สุด แต่แล้ว…ชีวิตการทำงานต้องสะดุดลง เนื่องจากวิกฤตโรคระบาดโควิด-19 ที่แพร่ระบาดไปทั่วโลก เหมือนโลกทั้งใบต้องหยุดชะงักลงทันที สายการบินทั่วโลกประกาศหยุดบิน บางประเทศถึงขั้นต้องปิดประเทศ
ซึ่งแน่นอน ผู้ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดส่วนหนึ่งคือผู้ที่ทำงานด้านการบินนั่นเอง อาชีพ “นักบิน” ที่ใคร ๆ ก็คิดว่าไม่มีทางตกงานแน่นอน แต่สถานการณ์ตอนนี้ได้พิสูจน์ว่าไม่ได้เป็นเช่นนั้น
.
เมื่อสายการบินต่าง ๆ หยุดบินเพราะไม่มีผู้โดยสารเดินทาง แน่นอนว่ารายได้ก็ไม่มี มีแต่รายจ่าย จึงทำให้บริษัทฯ ต้องประกาศว่า “ขาดทุน” และเพื่อให้บริษัทฯ อยู่รอดต่อไป จึงจำเป็นต้องลดเงินเดือนและขอลดจำนวนพนักงานบางส่วนลง และ “นักบิน” ก็โดนผลกระทบนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เช่นกัน
จึงมีการทำแบบประเมินผลในหลายส่วน และคัดเลือกพนักงานที่รับไว้ได้ โดยในฝูงบินที่ข้าพเจ้าปฏิบัติงานอยู่นั้น มีการคัดรายชื่อนักบินที่ได้รับโควต้าให้อยู่ต่อก่อนถึงลำดับของข้าพเจ้าเพียงแค่ 2 คนเท่านั้น !
เหมือนฟ้าผ่ากลางหัวใจเลยทีเดียว ทั้งตกใจ ทั้งผิดหวัง คิดแต่เพียงว่า ข้าพเจ้าทำอะไรผิด ข้าพเจ้าไม่ดีกว่าคนอื่นตรงไหน ทำไมคนนั้นยังได้อยู่ต่อ คนนี้ยังได้อยู่ต่อ ทั้ง ๆ ที่ดู ๆ แล้วข้าพเจ้าก็ไม่ได้มีอะไรด้อยไปกว่าเขาเหล่านั้นเลย แถมยังมีเพื่อนพนักงานหลายคนงงกันมากว่า เป็นไปได้อย่างไรที่ข้าพเจ้าไม่ได้รับเลือก ไม่น่าจะเป็นไปได้เลย แต่มันก็เป็นไปแล้ว
.
ข้าพเจ้าจึงต้องจำใจออกจากงานที่ตนเองรักเมื่ออายุ 41 ปี กับชีวิตการทำงานที่นี่เพียง 17 ปี ซึ่งมันเหมือนทำงานนี้มาแล้วครึ่งทาง เหลืออีกครึ่งทางก็จะปลดเกษียณ ความคิดคำนึงว่า ทำไมต้องเป็นข้าพเจ้า อีกนิดเดียวเอง น่าจะได้ไปต่อ เกิดอะไรขึ้น ! ข้าพเจ้าทำกรรมอะไรกับใครไว้เขาถึงต้องมาเอาคืน
คิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออก เพราะดู ๆ แล้วที่ผ่านมา ที่จำได้ไม่เคยทำร้ายใคร ตั้งใจทำความดีมาตลอด แล้วทำไมต้องเป็นข้าพเจ้า มีคนเคยบอกว่า ในอดีตอาจเคยทำกรรมนี้ไว้โดยไม่รู้ตัว เพราะระลึกชาติที่ผ่าน ๆ มาไม่ได้ ซึ่งแน่นอน ในหลักของศาสนาพุทธ พระพุทธเจ้าทรงสอนไว้ว่า ทำกรรมเช่นไร ย่อมได้รับผลเช่นนั้น และผลของกรรมนั้นยุติธรรมเสมอ เหมือนดั่งปลูกต้นมะม่วงก็ย่อมต้องได้รับผลมะม่วง จะให้เป็นผลไม้อื่นก็เป็นไปไม่ได้
.
ยิ่งไปกว่านั้น สิ่งที่ทำให้ข้าพเจ้าทุกข์ใจน้อยลงเพราะได้มาปฏิบัติธรรม ได้เรียนรู้หลักสำคัญของศาสนาพุทธ คือ การปล่อยวาง หรืออุเบกขา ทำให้ยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้นกับชีวิต และหาทางออกใหม่ได้ในที่สุด
และตอนนี้ เมื่อถึงเวลาของกรรมวิบากที่ได้รับเริ่มคลายจาง และเจ้ากรรมนายเวรท่านเมตตาให้อภัยข้าพเจ้า ฟ้าจึงเปิดทางให้ ซึ่งข้าพเจ้า ได้กลับมาเป็นกัปตันเหมือนเดิมในสายการบินแห่งใหม่ ซึ่งเป็นสายการบินแห่งชาติของประเทศนั้นเช่นเดียวกัน หวังว่า ข้าพเจ้าคงจะได้มีโอกาสทำการบินให้กับทุกท่านครับ
.
ที่ผ่านมา หากดูเหมือนว่าข้าพเจ้าจะเสียอะไรบางอย่างไป แต่จริง ๆ แล้วมันคือโอกาสที่ทำให้ได้รู้จักตัวเองมากขึ้น และ ได้ก้าวออกจากพื้นที่ที่เคยคิดว่าปลอดภัย มาสู่พื้นที่ที่ได้เรียนรู้ในสิ่งใหม่ ๆ ซึ่งทำให้ข้าพเจ้าแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมแต่ที่สำคัญมาก ข้าพเจ้าได้ตระหนักแล้วว่า ‘ความดี’นั้น ทำไปเถิด เพราะ ‘ความดี’นี้ไม่ได้หายไปไหน เพียงแต่รอเวลาส่งผลเท่านั้น ไม่วันใดก็วันหนึ่ง... เพียงแต่อย่าท้อ และอย่าหยุดที่จะทำ‘ความดี’