ประสบการณ์ธรรมคุณจิรัฏฐ์
การได้กลับมาร่วมงานภาวนาเพื่อแผ่นดินในเดือนธันวาคม 2562 ที่เพิ่งผ่านมา เป็นสิ่งที่มีความหมายต่อจิตใจของข้าพเจ้าเป็นอย่างมาก เพราะทำให้นึกย้อนถึงจุดเริ่มต้นของการเข้าสู่เส้นทางเดินใหม่ที่พลิกชีวิตของข้าพเจ้าไปอย่างสิ้นเชิง
ข้าพเจ้านายจิรัฏฐ์ อายุ 29 ปี ทำงานด้านการบริหารฝ่ายการขายและการตลาด นิสัยเป็นคนที่ชอบเอาชนะ มีอารมณ์โกรธค่อนข้างรุนแรง แต่ก็เป็นคนใจกว้าง ชอบช่วยเหลือผู้อื่นและเป็นคนสนุกสนาน จึงมีเพื่อนค่อนข้างเยอะ ชอบการดื่มไวน์และท่องเที่ยวสถานบันเทิงยามค่ำคืน ติดตามสิ่งที่กำลังเป็นที่นิยมใหม่ ๆ อยู่ตลอดเวลาเพราะกลัวจะคิดแผนการตลาดไม่ออก คิดแต่เรื่องหาเงิน ชอบเงินและคุยเรื่องเงินได้ทั้งวัน คำว่า “วัด” อยู่ไกลจากชีวิตของข้าพเจ้ามาก การโพสต์รูปลงในอินสตาแกรมหรือเฟซบุ๊กก็เพื่ออวดเท่านั้น ไม่ได้อยากทำบุญจริง ๆ
วันหนึ่ง กัลยาณมิตรผู้เปรียบเสมือนพี่สาวและผู้ให้โอกาสทางธุรกิจ ได้ให้หนังสือเล่มหนึ่งชื่อ “ฆราวาสบรรลุธรรม 1” เปิดอ่านเพียงบทแรกข้าพเจ้าก็วางเลย เพราะคิดว่าเป็นเรื่องเกินจริง แต่ยังเก็บหนังสือไว้ไม่ส่งคืนเพราะเกรงใจ และในยามที่มีเรื่องทุกข์ใจ ข้าพเจ้าจะบังเอิญมองไปเห็นภาพท่านอาจารย์ที่อยู่บนหน้าปกหนังสือทุกครั้ง
หลังจากนั้น ช่วงปลายปี 2559 พี่สาวได้ชวนข้าพเจ้ามางานภาวนาเพื่อแผ่นดิน ซึ่งเป็นปีแรกที่มาร่วมงานนี้ เหตุผลที่มาร่วมงานก็เพราะเป็นห่วงพี่สาวที่ต้องขับรถคนเดียวเท่านั้น ไม่ได้มาเพราะความศรัทธาใด ๆ เมื่อมาถึงจึงเกิดคำถามและอคติมากมาย คิดวนจับผิดต่าง ๆ นานา แม้ในขณะที่กำลังนั่งสมาธิระหว่างงานภาวนาฯ ข้าพเจ้าก็คิดว่า เคยเห็นแต่เป็นพระสงฆ์ แต่นี่ท่านก็ไม่ใช่พระ และไม่ใช่ผู้ชายอีกด้วย เหมือนท่านอาจารย์ทราบว่าข้าพเจ้ากำลังคิดอะไรอยู่ ขณะนำการภาวนาอยู่นั้น ท่านก็พูดขึ้นมาว่า “ไม่ต้องคิดว่าเป็นหญิงหรือชาย” ข้าพเจ้าจึงหยุดคิดและตั้งใจนั่งสมาธิ
ในเดือนธันวาคม 2561 พี่สาวได้ชวนมาเข้าคอร์สอบรมอานาปานสติ ข้าพเจ้ามาเพราะเป็นห่วงพี่สาวอีกเหมือนเดิมที่เพิ่มเติมคืออยากมาหาความจริงว่า ทำไมเธอจึงมีศรัทธาต่อท่านอาจารย์เหลือเกิน ในระหว่างการอบรมข้าพเจ้าเกิดสภาวธรรมต่าง ๆ มากมาย หลังจากจบการอบรมแล้วก็คิดทบทวนพิจารณาอย่างรอบคอบตามความเป็นจริง จึงได้เกิดความศรัทธา และสิ่งแรกที่ทำคือ ค่อย ๆ หยุดทำผิดศีลข้อ 5 และหยุดได้สิ้นเชิงในที่สุด ซึ่งเป็นสิ่งที่นับว่ายากมากสำหรับข้าพเจ้า
ต่อมาในเดือนกรกฎาคม 2562 ข้าพเจ้าจึงสมัครเข้ารับการอบรมเตโชวิปัสสนากรรมฐาน วันแรกที่ท่านอาจารย์เดินเข้ามานั่งบนตั่งของท่าน ข้าพเจ้าไม่อาจกลั้นน้ำตาเอาไว้ได้จึงร้องไห้ออกมา และในตอนนั้นเองที่จิตรู้ชัดว่า แท้จริงแล้วเรารอคอยโอกาสนี้มานานแสนนาน…และวันนี้ได้มาถึงแล้ว
ในวันแรกที่ปฏิบัติเตโชวิปัสสนากรรมฐาน ข้าพเจ้ามีความรู้สึกร้อนและเจ็บบริเวณมือและขา วันที่สองเริ่มเจ็บมากตรงบริเวณกระดูกสันหลัง เจ็บแบบมีคนเอาชะแลงมางัดทีเดียว เจ็บจนทนไม่ไหว คิดแต่ว่าเมื่อไหร่จะหมดเวลาสักที เป็นอย่างนี้ทั้งวัน เกิดความท้อแท้มาก รู้สึกว่าตนเองไม่เอาไหนเลย ใจหนึ่งอยากแอบหนีกลับบ้าน แต่ด้วยข้าพเจ้าเป็นคนไม่ยอมแพ้อะไรง่าย ๆ ท้อได้แต่ถอยไม่ได้
ช่วงบ่าย เมื่อเริ่มภาวนาก็เจ็บปวดมากที่บริเวณเดิม พอสอบอารมณ์เสร็จ ท่านอาจารย์ก็ให้ไปปฏิบัติต่อที่เรือนโพธิ์ แต่ข้าพเจ้าปวดจนทนไม่ไหว จึงถอนภาวนาแล้วเดินไปบริเวณข้างเรือนนอน ท้อแท้จนยืนร้องไห้ พอถึงเวลาเดินจงกรมในตอนเย็น จิตยังวนคิดแต่เรื่องความเจ็บปวด ต่อเมื่อได้เห็นท่านอาจารย์ผู้เป็นครูบาอาจารย์เดินผ่านมาก็เกิดมีขวัญกำลังใจขึ้น จนถึงเวลาภาวนาช่วงเย็นก็คิดว่า เอาล่ะ เจ็บอย่างไร จะเป็นจะตายก็จะทน เอาไงเอากัน ผ่านไปประมาณ 30 นาที ถึงที่สุดของความเจ็บและเกิดความนิ่ง เพราะจิตไม่ได้ไปยึดกับความรู้สึกเจ็บปวดนั้น รู้สึกเหมือนกระดูกสันหลังกำลังถูกดึงขึ้นทีละข้อ ทีละข้อ เจ็บแบบมีคนดึงจริง ๆ แต่ก็ภาวนาต่อไป เมื่อถูกดึงขึ้นทุกข้อแล้ว จิตรู้สึกเบาและสุขสงบ ขณะนั้นเองก็ระลึกถึงคำที่ท่านอาจารย์เคยกล่าวว่า ผู้ที่มีเวทนาเป็นความเจ็บปวดบริเวณนี้มักเป็นผู้ที่กระทำผิดต่อบุพการี ด้วยเหตุที่บิดามารดาคือแกนของชีวิต เป็นผู้ก่อร่างสร้างชีวิตและโอบอุ้มเลี้ยงดูเรามา จึงส่งผลเป็นเวทนาที่กระดูกสันหลังซึ่งเป็นแกนสำคัญของร่างกาย ข้าพเจ้าก็คิดว่าเราทำอะไร ก็ส่งเงินให้ทุกเดือนไม่เคยขาด คิดได้เพียงเท่านั้นก็ได้คำตอบขึ้นในจิตว่า เราไม่เคยดูแลใจท่านเลย พอถึงเวลาสอบอารมณ์ก็ได้กราบเรียนให้ท่านอาจารย์ทราบตามข้างต้น ท่านเมตตาให้กำลังใจและให้พากเพียรภาวนาต่อไป
ในวันถัดมา ขณะภาวนามีสภาวธรรมเห็นเป็นต้นอ่อนที่กำลังงอกขึ้นใหม่บนแปลงที่มีการไถกลบอย่างดี ทราบในจิตว่า เป็นกิเลสที่เร่งเพาะปลูกเพื่อทดแทนกิเลสที่ถูกกำจัดออกไป พร้อมเห็นภาพรวมทั้งหมดจนเข้าใจแล้วว่า มันเป็นเหมือนโลกอีกใบหนึ่งที่มีกิเลสมาอาศัยอยู่เป็นอาณานิคมขนาดใหญ่ มีหลากหลายโซน เป็นป่า เป็นชุมชน เป็นเมือง มีทั้งที่เป็นสัตว์ เป็นคน และสิ่งมีชีวิตที่มีสภาพน่าขยะแขยง นอกจากนั้นยังมีชั้นที่อยู่ลึกลงไปอีกหลายชั้น เป็นเช่นนี้เอง…โลกธาตุ
ในวันสุดท้ายของการอบรม ขณะกำลังจะนำดอกไม้เข้ากราบขอบพระคุณท่านอาจารย์ที่เมตตาอบรมสั่งสอนธรรม ข้าพเจ้าครุ่นคิดว่าจะกล่าวกับท่านอาจารย์อย่างไร แต่เมื่อได้อยู่ต่อหน้าท่านก็กลับพูดอะไรไม่ออก ได้แต่น้อมจิตกราบท่านอาจารย์ด้วยความเคารพยิ่ง เพราะคิดว่าไม่มีคำใด ๆ ในโลกนี้ที่จะสามารถกล่าวแทนความรู้สึกสำนึกในพระคุณ และความเมตตากรุณาของพ่อแม่ครูอาจารย์ที่ได้มอบให้ได้เลย
หลังจากจบการอบรมเตโชวิปัสสนากรรมฐาน ความโมโหร้ายของข้าพเจ้าลดน้อยลงจนอยู่ในระดับที่ควบคุมได้ มีความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น ไม่ได้มองว่าเงินสำคัญที่สุด สามารถให้อภัยและให้โอกาสผู้อื่นจนคนรอบข้างแปลกใจ เพราะปกติข้าพเจ้าไม่เคยให้โอกาสผู้ใดเลย นี้จึงเป็นการเดินทางบนเส้นทางใหม่และมีเป้าหมายใหม่ ที่ไม่ได้หวังกอบโกยเงินทองและความสุขทางโลกเหมือนเช่นก่อน และตระหนักดีว่าเมื่อวันสุดท้ายของชีวิตมาถึง แม้แต่กายนี้ข้าพเจ้าก็ไม่สามารถฉุดยื้อเอาไว้ได้
ข้าพเจ้าขอนอบน้อมกราบองค์สมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า น้อมกราบพระอาจารย์สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี ด้วยเศียรเกล้า และน้อมกราบท่านอาจารย์อัจฉราวดี วงศ์สกล ด้วยความเคารพอย่างสูงยิ่ง ข้าพเจ้าขอน้อมบุญทั้งหมดอันเกิดจากธรรมทานนี้เป็นอาจาริยบูชาแด่ท่านอาจารย์อัจฉราวดี วงศ์สกล
สุดท้ายนี้ขอขอบคุณคุณโชตินา กัลยาณมิตรผู้แนะนำเส้นทางอันประเสริฐนี้
#รชด #ภาวนา #สตปฏฐานส #พระอาจารยสมเดจพฒาจารยโต #รใหชด #เรองเลา #พระอาจารยสมเดจโต #ฆราวาส #ธรรมะ #ฝกสต #เพงดกาย #สมปชญญะ #สมาธ #ชำระจต #สต #นมตเตอน #ฝกสมปชญญะ #เตโชธาต #รตวทวพรอม #อาจารยอจฉราวดวงศสกล #ดจต #นอกวด #เพยรเผากเลส #ปฏบตธรรม #เผากเลส #วางเฉย #ฆราวาสบรรลธรรม #สมเดจโต #อเบกขา #วปสสนา #เพง #ขณะจต #นพพาน #เพยร #ธรรมแท #เพงดจต #กรรมฐาน #หลดพน #สมเดจพฒาจารยโต #เตโช #สตสมปชญญะ #จตบรสทธ #เตโชวปสสนา #ประสบการณ #เพยรภาวนา