top of page

“ใต้ปีกแห่งพ่อแม่ครูอาจารย์” ตอนจบ​

ประสบการณ์ธรรม คุณสันติ

ถ้อยคำจากท่านอาจารย์

ข้าพเจ้าจำได้เสมอว่าช่วงเวลานี้เป็นหนึ่งในช่วงที่วิเศษที่สุดเมื่อได้อยู่ต่อหน้าท่านอาจารย์ ข้าพเจ้าได้เข้าใจหลาย ๆ อย่างจากเพียงแค่ได้นั่งอยู่ตรงหน้าท่านและได้ฟังธรรมคำสอนจากท่าน . ขณะที่รายงานสภาวะที่เกิดจากการปฏิบัติแล้ว ท่านอาจารย์เมตตาสอนสั้น ๆ ถึงความสำคัญของการไม่ยึดมั่นถือมั่นในอารมณ์ “อารมณ์นั้นเกิดขึ้นแล้วก็ดับไป ส่วนหน้าที่ของเราคือต้องปล่อยวางอารมณ์นั้น” . ขณะที่ฟัง ข้าพเจ้าก็ปฏิบัติตามที่ท่านอาจารย์เมตตาสอน และในขณะเดียวกันนั้น อารมณ์ทั้งหลาย ความรู้สึกต่าง ๆ ความคิดฟุ้งซ่านนานาก็ผุดขึ้นในจิต โดยที่จิตส่วนหนึ่งของข้าพเจ้าเป็นเพียงผู้ดู สังเกตอารมณ์เหล่านั้นเกิดแล้วดับ และก็เกิดแล้วดับไปอยู่อย่างนั้น ตัวสัมปชัญญะหรือความรู้ตัวชัด ก็ทำหน้าที่สังเกตสภาวะเหล่านั้น ส่วนสติหรือความระลึกรู้ ก็จดจ่ออยู่กับเสียงของท่าน . แล้วท่านอาจารย์ก็ลดเสียงลงมา เป็นเสียงที่มีความอ่อนโยนอย่างจับจิตจับใจ ท่านพูดอย่างแผ่วเบาว่า “เมื่อท่านบรรลุธรรม ท่านจะรู้สึกเหมือนเทวดาเดินดิน” . เสียงของท่านอาจารย์แทงทะลุไปที่ใจของข้าพเจ้าอีกครั้ง ข้าพเจ้าน้ำตาไหลออกมาในขณะที่หลับตา เพราะคำสอนจากท่านช่างมีความหมายกับจิตเดิมของข้าพเจ้าเหลือเกิน นับตั้งแต่จิตนี้ถูกกักขังมาเนิ่นนานนับภพชาติไม่ถ้วน นี่คือคำที่มีความหมายสำหรับจิตเดิมมาก คำของท่านอาจารย์เป็นกำลังใจให้ข้าพเจ้าว่า พระนิพพานนั้นเป็นสิ่งที่เอื้อมถึงได้อย่างแน่นอน และความหลุดพ้นอย่างบริบูรณ์นั้น จะเกิดขึ้นได้ในวันใดวันหนึ่ง “ภาวนาพร้อมกันค่ะ” ท่านอาจารย์กล่าว ขณะที่ภาวนาพร้อมกัน จิตของข้าพเจ้ายังสั่นเครือด้วยความปีติ และความสงบอันวิเศษ ถึงแม้จะยังมีสภาวะต่าง ๆ เกิดขึ้นอยู่ตลอด ข้าพเจ้ารู้สึกได้ถึงความสงบระงับในจิตอยู่ทุกขณะ “ถอนภาวนาได้ค่ะ” ท่านอาจารย์กล่าว และท่านก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ . ในช่วงเวลานี้นั้นเอง ข้าพเจ้านึกขึ้นในใจว่า มันจบแล้ว คอร์สจบลงแล้ว กลับบ้านได้ และในที่สุดข้าพเจ้าก็สามารถวางตัณหาตัวสุดท้ายในจิต ที่อยากได้ความก้าวหน้าลงได้ แล้วพยายามลุกขึ้นเพื่อพาตนเองออกจากเรือนปฏิบัติโดยไม่มีความลังเลสงสัยใด ๆ . ในขณะที่ข้าพเจ้ากำลังลุกจากเก้าอี้ที่นั่งอยู่ จิตรู้ก็บอกข้าพเจ้าขึ้นมาว่าเดี๋ยวก่อน นั่งอยู่ก่อน และในช่วงเวลานั้นเอง ข้าพเจ้ารู้ขึ้นมาทันทีว่าท่านอาจารย์กำลังจะพูดต่อ “ยินดีด้วยนะคะ ท่านได้ความก้าวหน้าและเจริญในธรรมยิ่งขึ้นแล้ว” . จิตของข้าพเจ้ารวมลงเป็นสภาวะที่สงบและสำนึกในพระคุณ ในขณะนั้น ข้าพเจ้าได้เรียนให้ท่านอาจารย์ทราบว่า ข้าพเจ้าซาบซึ้งในพระคุณของท่านอย่างที่สุด และขอให้ความก้าวหน้าของข้าพเจ้านี้ กลับเป็นกำลังและพลังคืนสู่ท่าน ซึ่งท่านอาจารย์ได้บอกกับข้าพเจ้าในตอนนั้นว่าธาตุขันธ์ของท่านอ่อนแรงแค่ไหน อ่อนแรงจนท่านเห็นในนิมิตว่าต้องมีคนมาพยุงธาตุขันธ์ของท่านให้อยู่ต่อไป . จนกระทั่งถึงวันนี้ ข้าพเจ้าไม่อยากจะเชื่อเลยจริง ๆ ว่าท่านอาจารย์เมตตาและเสียสละมามากแค่ไหน ท่านพร้อมที่จะเสี่ยงชีวิตของท่านเพื่อให้พวกเราได้เป็นอิสระ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นประโยชน์ของพวกเราทั้งสิ้น ถึงแม้ว่าท่านอาจจะสูญเสียชีวิตของท่าน สูญเสียเวลาที่จะได้อยู่กับครอบครัวและคนที่อยากจะอยู่กับท่านก็ตาม . ประสบการณ์ในครั้งนี้ ได้สอนข้าพเจ้าหลาย ๆ อย่างในเรื่องของพลังงาน ให้ได้เห็นสภาวะที่แตกต่างกันหลาย ๆ อย่างที่มาบรรจบให้ได้เห็นธรรม ทุกอย่างคือพลังงาน จากคอร์สภาวนาหลาย ๆ ครั้ง พลังงานอันบริสุทธิ์มากมายจากคุณพระศรีรัตนตรัย จากท่านอาจารย์ และจากศิษย์ของท่าน ทำให้สนามพลังงานแห่งเตโชวิปัสสนาสถานมีความเข้มแข็ง และเต็มเปี่ยมไปด้วยกระแสแห่งธรรม ทุก ๆ คนที่ได้ก้าวเข้ามาสู่สนามพลังงานนี้ จะได้รับพลังความสั่นสะเทือนที่ส่งผลโดยตรงไปที่จิต ทำให้พลังความไม่บริสุทธิ์ในตนอ่อนแรงลง เป็นโอกาสที่จิตรู้จะได้ตื่นขึ้นมาพร้อมกับสติสัมปชัญญะและปัญญา . นอกจากนี้ ทุกครั้งที่ท่านอาจารย์มาถึงคอร์ส คำสอนจากท่านเปรียบเสมือนกุญแจหรือช่องทางที่ส่งพลังธรรมไปยังจิตของพวกเรา เปรียบประดุจดังแม่ที่จูงมือลูกไปยังทิศทางที่ถูกต้อง ดังนั้น จึงมีศิษย์มากมายที่ได้ความก้าวหน้าทางธรรมหลังจากได้รับการสั่งสอนด้วยเทคนิคเตโชวิปัสสนากรรมฐานจากท่านอาจารย์ . ตอนนี้ข้าพเจ้าเข้าใจอย่างถ่องแท้แล้วว่าพระพุทธองค์ทรงเทศน์และสามารถนำทางให้สาวกมากมายหลายพันคนบรรลุธรรมพร้อมกันได้อย่างไรในยุคนั้น ข้าพเจ้ามั่นใจว่า กระแสพลังงานและคำสอนของพระองค์จะต้องยิ่งใหญ่และมีกำลังมาก ด้วยพระบารมีสูงสุดของพระองค์ ทำให้ทรงสามารถนำพาสาวกหลายพันคนข้ามวัฏสงสารได้พร้อมกัน . ข้าพเจ้าจะไม่เพิกเฉยต่อคุณค่าของโอกาสสำคัญที่ได้รับนี้ ข้าพเจ้าขอสัญญาว่าจะปกป้องท่านอาจารย์ให้ปลอดภัย และปกป้องคำสอนของท่านด้วยการปฏิบัติอย่างยิ่งยวด รู้จุดสัมผัสให้ชัด และรักษาความกตัญญูให้แนบแน่นอยู่ในจิต . ขอน้อมกราบพระพุทธองค์ ด้วยความเคารพเหนือเศียรเกล้า ขอน้อมกราบพ่อแม่ครูบาอาจารย์ทุกภพทุกสมัย หลวงพ่อสัญชัย จิตตภโล และท่านอาจารย์อัจฉราวดี วงศ์สกล ด้วยความเคารพอย่างสูงยิ่ง

bottom of page